ในเรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่ง ที่ได้เติบโตมาในชนบท
ซึ่งอยู่ในภาคอีสานนั่นเอง สมัยที่เขียวยังเป็นเด็กอยู่นั้น เขาเป็นเด็กที่เก่งและมีความสามารถคนหนึ่ง แต่เมื่อเขาต้องไปเรียนที่กรุงเทพฯ ก็ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีปมด้อยมากมาย ถูกเพื่อนๆต่างๆล้อเลียนในความที่เขาเป็นคนอีสาน และมีใครหลายๆคนไม่ให้การยอมรับ จนกระทั่ง เขาเลิกพูดภาษาอีสานไปเลย จนกระทั่งเขาพูดภาษากลางได้แบบ 100% และเขาก็ไม่กลับไปเหยียบที่บ้านเกิดอีกต่อไป เพราะเขามีปมกับบ้านเกิด จึงทำให้เขาอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง และไม่กลับไปที่บ้านอีกเลย จนกระทั่งเมื่อเขียวเรียนจบเพื่อนในสมัยเด็กของเขา ก็ได้เดินทางมางานรับปริญญาของเขาด้วย
ซึ่งก็คือชมพู่หรือว่านางเอกของเรานั่นเอง แต่เรื่องราวก็กลับพลิกแพลง เมื่อเขียวรู้สึกไม่พอใจมากๆ และบอกกับชมพู่ว่ามาทำไมเราไม่ได้สนิทกัน นั่นเป็นการตอกย้ำว่าเขียวรู้สึกไม่ดีกับบ้านเกิดมากๆ เพราะเขาเข้าใจว่า ที่เขาต้องโดนบูลลี่ ก็เพราะว่าบ้านเกิดของเขา และเมื่อเขียวได้เรียนจบจนทำงาน เขียวก็เริ่มต้นการทำงานเป็นผู้กำกับ จนได้พบรักกับนักแสดงคนหนึ่ง ซึ่งเขียวเองก็จริงใจมากๆ เขาเก็บเงินเพื่อผ่อนคอนโดให้แฟนของเขาอย่างหนักหน่วง เพื่อคิดว่าจะเป็นเรือนหอสำหรับเขาทั้งคู่นั่นเอง แต่เรื่องราวก็กลับไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเขียวจริงใจเพียงแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้น ซึ่งแฟนของเขานั้นไม่ได้จริงใจเลย และได้หนีไปแต่งงานพร้อมกับเอาโฉนดคอนโดไปด้วย
นี่คือจุดเริ่มต้นของความเสียใจแบบมากมายของเขียว จนทำให้เขียวต้องเดินทางกลับบ้านเกิดอีกครั้ง
แต่เขาตั้งใจว่าจะกลับมาเพื่อหาเงิน และจะกลับมากรุงเทพฯอีกครั้ง แต่ในระหว่างที่เขากลับมาที่ต่างจังหวัด เขาก็ได้พบกับมิตรภาพของคนมากมาย ได้เรียนรู้วิถีชีวิตต่างๆของชาวบ้าน จึงทำให้เขารู้สึกผูกพันและรู้สึกคิดถึงความหลัง จนกระทั่งเขายอมกลับมาพูดภาษาท้องถิ่น หรือภาษาอีสานอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนางเอกของเราหรือว่าชมพู่ คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขียวซึมซับมิตรภาพต่างๆ เพราะว่าเขียวต้องการเอาที่ดินของเขาคืน แต่นางเอกของเราไม่ยอมให้ง่ายๆ โดยเธออ้างเหตุผลว่า ให้เขียวอยู่ เพื่อเรียนรู้ขั้นตอนการทำงาน ตามวิถีของเกษตรกรที่นี่ให้หมดเสียก่อน ซึ่งจากเรื่องราวตรงนี้นั่นเอง ทำให้เขียวกลับมาเห็นความน่าอยู่ของบ้านเกิดอีกครั้งนั่นเอง
#รีวิวละครไทย #มนต์รักหนองผักกะแยง #คอมเมดี้ #รักบ้านเกิด
